สร้างสุขด้วยการหลับตา

ความสุขหาง่าย แค่เพียง “หลับตา”

เราทุกคนมีวิธีการหาความสุขกันยังไงบ้างคะ? เชื่อว่าหลายคนจะรู้คำตอบของตัวเองดี บางคนชอบดูหนัง บางคนชอบเล่นเกม บางคนก็เป็นการช็อปปิ้ง หรือบางคนคือการออกไปเที่ยว ไปกินอะไรอร่อยๆ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเราคนส่วนใหญ่ใช้เพื่อเป็นการแสวงหาความสุข ที่อยู่กับเราได้ไม่นานเลย เพราะเมื่อสิ่งเหล่านี้ตอบสนองความสุขจนหมดแล้ว เราต่างจะขวนขวายหามันในวิธีต่างๆต่อไปเรื่อยๆ

ความสุข ความทุกข์เป็นสิ่งไม่จีรังอยู่กับเราเพียงชั่วคราว

หรือบางครั้งการทำให้เกิดความสุขต่อตนเองยังกลับมาทำร้ายตนเอง เช่น ต้องดิ้นรนหารายได้เพิ่มเพื่อมาสนองความสุขนั้นๆ หรือแย่กว่านั้นบางคนอาจไปเบียดเบียนผู้อื่น เพื่อให้ได้มา ในสิ่งที่เราต้องการ หรือเมื่อไม่ได้ดั่งใจแต่เมื่อเห็นผู้อื่นได้สิ่งที่ตัวเองต้องการนั้น กลับยิ่งมาสร้างความทุกข์ในใจเราเอง เกิดความอยาก ซึ่งทั้งหมดนั้นล้วนวนอยู่ในสิ่งที่พระพุทธเจ้าเรียกว่า สังสารวัฏ คือการเวียนว่ายตายเกิดในกองทุกข์ที่ไม่ดับลงได้

แล้วหากตั้งคำถามว่าวิธีการหาความทุกข์บ้างละ ซึ่งคงไม่ค่อยมีคนคิดสักเท่าไหร่ แต่จริงแล้วง่ายมากในความคิดหมอ เพราะการที่เราหาความสุขนั้นล้วนวนอยู่ในการนำความทุกข์มาให้เช่นกัน ฉะนั้นหากเป็นเช่นนี้ทุกข์และสุข อาจคล้ายกันก็ได้  ถ้าเราไม่อยากทุกข์เราอาจจะต้องไม่อยากสุข นั้นน่าจะเป็นสมมุติฐานที่ศาสดาของเราใช้หาหนทางดับทุกข์อาจเป็นได้ หลายคนมักพูดกันว่า พูดง่ายแต่ทำยาก แต่รู้ไหมพระพุทธองค์ท่านได้สอนวิธีดับทุกข์  อย่างหนึ่งคือการทำสมาธิ หากจะมองเผินๆ ก็แค่เป็นการนั่ง “หลับตา” แต่ถ้าค้นหาเข้าไปลึกกว่านั้นเพื่อเจอสิ่งที่เรียกว่า ความสงบ อันเป็นธรรมะในโพชฌงค์ 7 ประการ

ซึ่งเมื่อได้สัมผัสความเยือกเย็นอันนี้ นั้นล่ะจะสัมผัสความสุขที่เกิดจากความสงบของใจ หากมองในทางการแพทย์ระหว่างฝึกหลับตาอย่างสงบ สมองได้หลั่งสารแห่งความสุขอย่างเช่น สารเอ็นโดรฟิน (endophrine) ถึงแม้จะสามารถหาได้จากวิธีอื่นได้ แต่ก็ต้องแสวงหา วิธีที่ใช้ได้ทุกสถานการณ์ไม่ต้องเสาะแสวงหา และเราทุกคนเองก็เคยใช้มันบ่อยๆ เช่นตอนเราอธิษฐานอะไรก็ตาม แค่เพียง “หลับตา” เมื่อจิตสงบก็พบกับความสุขได้แล้วค่ะ

เห็นไหมค่ะ การสร้างสุขสามารถทำได้โดยตัวเราเพียงง่ายๆ แค่นี้เองค่ะ การเรียนรู้สมาธิไม่ได้หมายความว่าเราต้องปลงจากทางโลก เพราะหลายคนมีภาระหน้าที่ๆต้องรับผิดชอบ แต่การทำสมาธิเป็นวิธีที่ช่วยให้เราไปค้นหาเรียนรู้ดูแลจิตใจของตัวเราเอง ซึ่งหมอได้ลองทำแล้วดีเลยอยากจะแบ่งปันเท่านั้นเองค่ะ

ขอแชร์ค่ะ